เขาว่ากันว่า ภูชี้ฟ้านั้นระดับอนุบาล ภูกระดึงนั้นระดับประถม ภูสอยดาวคือระดับมัธยม
แล้วมันก็โหดจริงๆ ครับ กว่าจะถึงลานสนภูสอยดาวได้ เหนื่อยจริงๆ
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคก อำเภอบ้านโคก อำเภอห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวมีเนื้อที่ 125,110 ไร่ หรือ 200.18 ตารางกิโลเมตร
การเริ่มต้นของการเดินทางนี้มันเกิดจาก…
พอสอบเสร็จปุ๊บ อาร์มก็โทรมาหาเราเลยครับ บอกว่าอยากไปเที่ยวมาก ถึงมากที่สุด want สุดๆ เลย … เราก็เลยเอาไงก็เอาวะ อยากไปนักเดี๋ยวจัดให้ … หาข้อมูลในเน็ต เห็นว่าภูสอยดาวเป็นที่หนึ่งที่น่าสนใจมาก ก็เลยวางแผน เตรียมตัว เตรียมใจเลยครับ ( ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก www.trekkingthai.com ) แล้วก็ชวนเพื่อนๆ แต่ก็เหมือนเคย.. ไม่มีใครบ้าไปกับเราเลย เฮ้อๆ.. เราก็เลยคิดว่าคงต้องไปกันแค่ 3 คนอีกแล้ว
แต่… เรื่องที่แย่ที่สุดก็เกิดขึ้นก่อนออกเดินทาง 1 วัน.. เจ้าอาร์มตัวดีโทรมาแบบมึนๆ บอกว่า ไปไม่ได้แล้ว ติดธุระสำคัญ …. เราอึ้งพูดไม่ออกเลยครับ ..(ธุระมันสำคัญจริงๆ ด้วยว่ะ) เพราะฉะนั้นตอนนี้เหลือเรากับมาร์คแค่ 2 คน… คงไม่ไปอ่ะครับ.. 2 คนจะไปยังไงวะเนี่ย
เรากับมาร์คเลยไปลาก พี กับ จิ้งหรีด มาเป็นผู้โชคร้ายร่วมเดินทางกับเราครับ
การเดินทางเริ่ม เย็นวันพฤหัสที่ 13 ออกจากบ้านตอนเย็นๆ ต่อ Taxi สีส้มสุดสวย ไปรับมาร์คที่คอนโด รถติดมากครับ น่าเบื่อจริงๆ … กว่าจะถึงหมอชิตก็เกือบ 2 ทุ่มแล้ว
มาร์คยืนอธิบายครับว่าจะไปไหนกัน เพราะพีกับจิ้งยังมึนๆ อยู่ว่า เมิงจะพากรูไปไหนว้าเนี่ย
เราต้องนั่งรถไปลงที่ตัวเมืองพิษณุโลกก่อนนะครับ .. เลือกวินทัวร์ เพราะเคยนั่งมาตั้งแต่เด็กๆ..
รถออกจากหมอชิต 4 ทุ่ม รถวิ่งไปดับไป กว่าจะถึงพิษณุโลกก็ตี 3 กว่าๆ แล้ว .. พอถึงก็มึนๆ ต่อไปว่าเราจะไปต่อยังไง.. มีพี่ผู้ชายคนนึงเข้ามาเสนอครับ… ภูสอยดาว ไป-กลับ 3200 (บาท) เป็นรถกระบะมีหลังคาหลัง… หาเพื่อนร่วมเดินทางได้อีก 3 คนครับ เป็นพี่ๆ ผู้หญิงเดินทางมาจาก กทม. เหมือนกัน .. มาช่วยแชร์ค่ารถกันครับ
จากพิษณุโลก ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อช.ภูสอยดาว ใช้เวลา 3 ชั่วโมง กับการขับรถที่หวาดเสียวสุดๆ ทั้งมืดสนิท ทั้งหนาว ทั้งหมอก ทั้งเปลี่ยว ทั้งเมารถ ฯลฯ
ถึงแล้วก็ไปลงทะเบียน แล้วก็ส่งสัมภาระให้ลูกหาบครับ … การไปท่องเที่ยวต่างถิ่น เราควรแบ่งปันน้ำใจให้คนในท้องถิ่นครับ การจ้างลูกหาบเป็นการทำให้คนในท้องถิ่นมีรายได้นะครับ เพราะฉะนั้นเราต้องจ้างลูกหาบ ไม่ควรขนสัมภาระขึ้นเองครับ (จริงๆ แล้วเป็นข้ออ้าง เพราะขนของขึ้นเองคงไม่ไหวต่างหาก) … ลูกหาบได้เงินจากเราไป 600 กว่าบาท ไม่เบาเลยนะเนี่ย
ที่ตีนภูสอยดาวมีน้ำตกภูสอยดาวต้อนรับเราอยู่ครับ
และแล้ว.. ก็เริ่มเดินขึ้นภูสอยดาวครับ
ทางตอนแรกๆ มันสบายๆๆๆ มากๆๆๆ ทำให้เราตายใจว่ามันไม่ห็นจะโหดอย่างที่รู้มากเลย.. เฮ้อๆ .. สบายจริงๆ
ตอไผ่
เดินผ่านดงไผ่ครับ ต้นไผ่ใหญ่มาก..
ต้องเดินข้ามลำน้ำ
มีต้นไม้ใหญ่ล้มขวางอยู่ด้วยครับ
เดินไปเรื่อยๆ ครับ มีธรรมชาติที่สวยงามให้เราได้ชื่นชมตลอดเส้นทาง
เดินไปพักไป เดินเท่าไหร่ก็ไม่ถึงสักที ใครไม่ไปก็คงไม่รู้หรอกว่าการเดินขึ้นเขามันเหนื่อยขนาดไหน.. สำหรับรูปทางที่โหดๆ เนินสูงๆ ชันๆ เราไม่มีให้ดูนะครับ เพราะตอนนั้นไม่มีอารมณ์ถ่ายรูปแล้ว
เห็ดครับ เห็ดๆๆ
พักอีกรอบ นั่งคุยกันไปเรื่อยครับ ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือป่าวที่มาลำบากกันที่นี่
เห็ดอีกแล้ว
พักอีกครั้งที่เนินเสือโคร่ง
ทางเดินขึ้นภูสอยดาว จะแบ่งเป็นช่วงๆ ครับ โดยจะเรียกช่วงต่างๆ เป็นชื่อเนิน ซึ่งมีระยะทาง และความชันต่างๆ กัน
…
พักอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว !!
…
เนินมรณะ !! เนินสุดท้ายก่อนถึงลานสนแล้วครับ
ปีนเนินมรณะขึ้นมาแล้วได้เห็นวิวที่สวยงามแบบนี้นี่เอง
พีนั่งพักดูวิวครับ
สู้ตายค่ะ..
ผ่านพ้นไปจากเนินมรณะไม่นาน ก็ถึงป้ายยินดีต้อนรับแล้วครับ
นึกว่าจะถึงแล้วซะอีก.. ที่ไหนได้ ต้องเดินไปอีก 300 เมตร
ขอถ่ายรูปกับป้ายก่อนนะครับ
ในที่สุดเราก็มาถึงลานสน … ร่ายกายที่อิดโรยกับการเดินเท้า 5 ชั่วโมงกว่าๆ
ลูกหาบเอาของมาทิ้งไว้ให้เรานานแล้ว เค้าคงงงอ่ะครับว่าทำไมพวกเราเดินกันช้าจัง
พอถึงที่กางเต๊นท์ เราก็รีบจัดการข้าวของล่ะครับ ก่อไฟ กางเต๊นท์ เตรียมกับข้าว