สุดสัปดาห์ที่แล้วเป็นวันหยุดยาว 3 วันก็เลยวางแผนกับเพื่อนๆ ที่ออฟฟิศไปเที่ยวทะเลกันครับ อยากไปทะเลที่ไกลๆ หน่อยไม่ใช่แค่หัวหินหรือพัทยา แต่ก็คงไปทางใต้ไม่ไหวเพราะเวลามีจำกัด (งบก็มีจำกัดด้วย) เพราะฉะนั้นทะเลตะวันออก จ.ตราด น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด สามารถขับรถไปได้แบบสบายๆ 5-6 ชั่วโมง ไม่นานเกินไปนัก ในที่สุดก็มาลงตัวกันที่ “เกาะหมาก” ครับ
“เกาะหมาก” ตั้งอยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด ห่างจากชายฝั่ง จ.ตราด ออกไปประมาณ 40 กิโลเมตรครับ เกาะหมากเป็นเกาะที่มีพื้นที่เล็กๆ เพียงแค่ 13 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น แต่ว่าเป็นเกาะที่มีประวัติเรื่องราวที่น่าสนใจ มีชุมชนที่อาศัยอยู่บนเกาะมายาวนานกว่าร้อยปีเลยทีเดียว
สำหรับทริปนี้ ก่อนเดินทางเราหวังไว้ว่าจะได้เห็นแสงแดด ขอบฟ้า และอากาศที่สดใส เพราะช่วงสัปดาห์ก่อนเดินทาง อากาศมันช่างร้อนเหลือเกิน แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ เพราะนี่ก็เริ่มเข้าเดือนพฤษภาคมแล้ว ตลอด 3 วันของการเดินทางของเราจึงเต็มไปด้วยความหม่นหมองของท้องฟ้า สลับกับฝนที่ตกลงมาเป็นระยะๆ ตลอดเลย… ไปชมกันครับ
พวกเราไปกัน 10 คนพอดีกับรถเก๋ง 2 คันครับ นัดกันแต่เช้า เพื่อออกจากกรุงเทพฯ แต่เช้าตรู่ บางคนยังไม่ได้นอนเพราะเพิ่งกลับจากการจัดหนักคืนวันศุกร์ ก็มานอนต่อบนรถครับ ฮ่าๆ : )
ขับรถมาถึงท่าเรือเที่ยงพอดี เราโทรมาจอง Speed Boat ล่วงหน้าไว้แล้วครับ ที่ท่าเรือกรมหลวงชุมพร (แหลมงอบ) จ.ตราด มีเรือเร็ว Speed Boat ข้ามไปเกาะหมาก 2 เจ้าคือ “เรือปาหนัน” และ “เรือลีลาวดี”
เราเลือกไปกับเรือเร็วปาหนันครับ เพราะว่าเรือจะไปจอดที่ท่าเรืออ่าวสวนใหญ่ (หน้าเกาะหมาก รีสอร์ท) ซึ่งอยู่ใกล้กับที่พักของพวกเรา ส่วนเรือลีลาวดีจะไปจอดอ่าวอื่นที่อยู่ไกลกว่าครับ
เกือบบ่ายโมงก็ได้เวลาลงเรือกันแล้ว ก่อนหน้านี้พวกเราแวะซื้อเสบียง อาหารสด ขนม เครื่องดื่ม ของใช้จำเป็น จากตลาดในตัวเมือง จ.ตราด มาเรียบร้อยแล้ว ก็เลยทยอยขนของลงเรือกันได้เลย
เรือ Speed Boat ใช้เวลาวิ่งประมาณ 40 นาที ก็พาพวกเรามาถึงเกาะหมากแล้วครับ วันนี้คลื่นลมค่อนข้างแรง ตลอด 40 นาทีที่ผ่านมาก็เลยต้องเกร็งกันมากกับการกระแทกของเรือกับคลื่น แทบจะบินกันเลยทีเดียว
หลังจากเก็บของเข้าที่พัก และรับประทานอาหารกลางวันแบบง่ายๆ กันแล้ว รถที่เรานัดไว้ก็มาถึง เพื่อที่จะมารับพวกเราไปทัวร์รอบเกาะกันในช่วงเย็นวันนี้ครับ
ไกด์ของเราแจกแผนที่ และเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ของเกาะหมากให้พวกเราได้ฟังก่อนที่จะออกรถ
เรามารู้ทีหลังในวันถัดไปเมื่อพวกเราไปรับประทานมื้อเย็นกันที่ “เกาะหมากซีฟู๊ด” ว่าไกด์ของเราในวันนี้ชื่อพี่เอก เป็นผู้ดูแลร้านนี้ และเป็นทายาทของตระกูลเก่าแก่บนเกาะหมาก คอยดูแลชุมชนบนเกาะหมาก และเราก็ยังได้เข้าไปชมบ้านไม้เก่าแก่ของต้นตระกูลพี่เอก (ในตอนกลางคืน แบบมืดๆ ไม่มีไฟ) ที่ปรับเปลี่ยนมาเป็นพิพิทธภัณฑ์ ตั้งอยู่ที่เดียวกับร้านอาหารนั่นเอง ทำให้พวกเราได้รู้ถึงเรื่องราวความเป็นมาที่ยาวนานบนเกาะแห่งนี้เพิ่มขึ้นอีกด้วยครับ
พี่เอกพาเรานั่งรถไปชมจุดต่างๆ ที่น่าสนใจบนเกาะหมาก แล้วก็เล่าเรื่องราวของเกาะหมากให้พวกเราได้ฟังกันด้วย
จุดชมวิวที่มองลงไปเห็นอ่าวสวนใหญ่
รถวิ่งต่อไปสักพักก็มาถึงชายหาดอีกฝั่งหนึ่ง น่าจะเป็นบริเวณอ่าวกระทิงครับ


นั่งรถต่อไปชมอ่าวขาว หาดนี้ทรายจะขาวที่สุดครับ ช่วงเย็นของวันนี้ลมพัดแรง คลื่นค่อนข้างแรง



อันนี้เป็นที่มาของชื่อ เกาะ “หมาก” -_-‘ (พูดเล่นนะ)
ที่สุดท้ายของทัวร์รอบเกาะวันนี้เป็นบริเวณพื้นที่ภายในของ “ซินนาม่อน รีสอร์ท” ครับ
สะพานไม้ยื่นออกไปบนน้ำยาวกว่าครึ่งกิโลเป็นจุดเด่นของที่นี่ บรรยากาศดีมาก ของจริงมันสวยกว่าในรูปนะ

เย็นนี้เรากลับที่พักไปเล่นน้ำ ปิ้งหมึกกินกันริมหาดหน้าที่พัก แล้วก็เข้านอนเตรียมตัวไปทัวร์ดำน้ำในวันรุ่งขึ้นครับ
เช้าวันรุ่งขึ้นมาถึง เก้าโมงครึ่งมีรถมารับเราไปที่ท่าเรืออ่าวนิด เพื่อลงเรือไปดำน้ำดูปะการังที่หมู่เกาะรังครับ
เรือแล่นฝ่าคลื่นลมแรงออกมาจากอ่าวนิดอย่างช้าๆ เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ก็มาถึงจุดดำน้ำจุดแรกที่เกาะรัง และนี่เป็นจุดที่ 2 ที่เรือมาจอดพักกลางวันรับประทานอาหารแบบข้าวกล่องครับ
คลื่นลมแรงในวันนี้ทำให้เรือโครงเครงมาตลอดการเดินทาง สภาพก็เลยออกมาเป็นแบบนี้

พักกลางวันเสร็จแล้วเรือก็ออกพาไปดำน้ำในจุดต่อไป สำหรับใครที่ไม่ไหวแล้ว ก็สามารถนอนพักรอบนฝั่งได้ครับ อีก 2 ชั่วโมงเรือจะกลับมารับ 😛


เรือกลับจากเกาะรังมาถึงเกาะหมากช่วงเย็นๆ จากอ่าวนิดมีรถมาส่งเราถึงที่พัก พระอาทิตย์หน้าที่พักเราเกือบลับฟ้าแล้ว ก็เลยต้องรีบถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกกันก่อนครับ
เข้าสู่ค่ำคืนสุดท้ายบนเกาะหมาก
เช้าวันรุ่งขึ้น วันสุดท้ายของการเดินทาง พวกเราตื่นสายๆ มาลงเรือกันตอน 11 โมงเช้า กลับขึ้นฝั่งที่ จ. ตราด และขับรถเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ ในช่วงค่ำๆ ครับ เป็นอันสิ้นสุดของการเดินทางทริปนี้
ถึงแม้ว่าทะเลตะวันออกใน 3 วันนี้จะไม่ได้สดใสแบบภาพที่เราคิดไว้ก่อนเดินทาง แต่ก็ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศในอีกแบบหนึ่งที่ต่างออกไป เกาะเล็กๆ กลางทะเลตะวันออกของอ่าวไทยแห่งนี้ ยังมีความสดใส เต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุก และความประทับใจจากการเดินทางครั้งนี้ครับ : )
ดูรูปจากกล้องดิวได้ที่ “เกาะหมากครั้งแรก” By Nattapol Kengkuntod
ข้อมูลเพิ่มเติมของทริปนี้
- ทริปนี้ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน
- พักที่ สุชานรี บังกะโล อ่าวสวนใหญ่ เป็นที่พักแบบบังกะโล ราคาประหยัด คืนละ 650 ไม่มีแอร์ น้ำอุ่น แต่ทำเลดี ติดหาด
- มีรถตู้จากอนุสาวรีย์ วิ่งไปส่งที่ท่าเรือกรมหลวงชุมพร แหลมงอบ จ.ตราด ค่าโดยสารเที่ยวละประมาณ 300 บาท
- จากกรุงเทพฯ ถึงท่าเรือกรมหลวงชุมพร แหลมงอบ จ.ตราด ประมาณ 330 กิโลเมตร ขับรถ 5-6 ชั่วโมง
- ควรโทรไปจองเรือก่อน เพราะเรือมีรอบน้อย ไม่ได้มีตลอดแบบเกาะช้าง
- ที่พักก็ต้องจองล่วงหน้าไปก่อนเช่นเดียวกัน
- ค่าเรือ Speed Boat ไปเกาะหมากเที่ยวละ 450 บาท ไป-กลับ ก็ 900 บาท (พ.ค. 55) เรือวิ่ง 40 นาที
- เรือช้าวิ่ง 3 ชั่วโมงครึ่ง ไม่รู้กี่บาท
- เกาะขามอยู่ทางทิศเหนือของเกาะหมาก จากอ่าวสวนใหญ่สามารถพายเรือคายัคไปถึงได้ แต่ต้องเสียค่าขึ้นเกาะ 100 บาท
- บนเกาะมีมอเตอร์ไซค์ให้เช่าวันละ 300 – 400 บาท
- บนเกาะมีรถรับจ้างวิ่งไปส่งตามจุดต่างๆ ค่าโดยสารคนละ 50 บาท
- ทริปดำน้ำเกาะหมาก One day trip ราคา 700 บาท เป็นเรือช้าพาไปหมู่เกาะรัง (ที่เดียวกับทริปดำน้ำของเกาะช้าง)
- บนเกาะมีร้านมินิมาร์ทหรือร้านโชว์ห่วยของชาวบ้าน ราคาเท่าบนฝั่ง หรือแพงกว่าแค่นิดหน่อย ไม่โหดเหมือนเกาะเสม็ดหรือเกาะล้าน
- เกาะหมากซีฟู๊ด อาหารอร่อย บรรยากาศร้านดี บริการเป็นกันเอง มีรถรับ-ส่งถึงที่พักฟรีด้วย
- ทริปนี้ใช้เงินไปคนละ 3,030 บาท + เงินติดกระเป๋าคนละ 1,000 บาท
- ที่ท่าเรือมีบริการรับฝากรถ คืนละ 50 บาท ที่จอดรถมีหลังคากันแดดกันฝน แต่ถ้าเต็มก็ต้องจอดกลางแจ้ง
- ถ้าขาไปออกจากกรุงเทพฯ แต่เช้า ก็สามารถแวะเที่ยวสวนผลไม้ที่จันทบุรีได้ทันนะ หรือจะแวะขากลับก็ได้